
ชมอุทยานคุนหมิงเมืองไทย
จ.เลย
ประชุมสัมมนาที่เลย

ทีมในฝัน มีที่นี่ที่เดียว บว.มมร.
การจะทำการใดๆ ต้องดูที่คนก่อนเพราะถือว่าเป็นปัจจัยตัวแรกที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้ปัจจัยองค์ประกอบอื่นๆ ดำเนินไปได้ด้วยดี เพราะหากคนไม่มีคุณภาพ ต่อให้มีหลักการอย่างไรก็ไม่ได้ผล คนตามหลักองค์การจัดการต้องประกอบไปด้วย “4Hs +1B” ได้แก่
เมื่อได้บุคลากรลักษณะนี้แล้วจะต้องนำมาเข้า Course ฝึกอบรม เชิงปฏิบัติการให้พร้อมทุกๆ ด้านเพื่อจะได้ตัวแทนขององค์กรที่มีคุณภาพ เหมาะสำหรับการทำงาน เหมาะสำหรับการบริหารงาน เหมาะสำหรับการนำองค์ประกอบที่เหลือไปดำเนินการ เชื่อมั่นได้ว่า องค์กรนั้นๆ ย่อมต้องประสบความสำเร็จได้เป็นอย่างดี
การทำงานเป็นทีม (Team Work) มีความสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งในการบริหารจัดการองค์กรยุคใหม่ ยุคที่มีองค์ประกอบทางสังคมซับซ้อน ดังนั้นจำเป็นต้องมีการประสานงาน สำหรับองค์กรพุทธก็เช่นเดียวกันจะต้องปรับการทำงานภายในองค์กรการทำงานที่เรียกว่า “One Man Show” นั้นไม่เหมาะสมกับยุคสมัยนี้ ในยุคสมัยก่อนๆ อาจจะยังพอประคับประคองไปได้
ต้องปฏิบัติตามนั้นเป็นไปเพื่ออุดมการณ์อันสูงสุด
“Anti Virus for Thai Society” 

Anti-Virus ตัวที่ ๒ เมื่อฉีดเข้าไป หรือใส่โปรแกรมเข้าไป จะทำให้เกิดสมดุล ปรับศูนย์ที่เสียในด้านความด้อยทางข้อมูล เพราะจะทำให้เกิดการศึกษา เรียนรู้ เข้าใจหลักที่เรียกว่า หลักวิชา และหลักความจริง หลักวิชานั้นสามารถเลี้ยงชีพได้ แต่หลักความจริงนั้นทำให้ชีวิตดำรงอยู่ได้อย่างเป็นสุข สัจธรรมเป็นสิ่งที่เหมือนกันไม่ว่าจะเป็นของชาติ เผ่าพันธุ์ วรรณะ ศาสนา สถาบันทางความรู้ใด เมื่อถึงเวลาแก้ไขปัญหาก็มองออกว่า ผู้ใดใช้ความรู้หรือผู้ใดใช้ความรู้สึก ก็จะได้ตั้งหลักไว้ที่ ๒ หลักนั้น คือ บางปัญหาใช้หลักวิชา บางปัญหาใช้หลักสัจธรรม


ตามธรรมดา ใจก็มีพลังของมันในตัว เป็นพลังขับเคลื่อนให้มนุษย์สร้างสรรค์ผลงานได้อย่างวิจิตรพิสดาร พลังสร้างสรรค์ในทางบวกนี้เรียกว่า “ฉันทะ” ขณะที่ฉันทะทำงาน ก็จะสร้างกระแสศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ และปัญญาขึ้นตามลำดับ แต่พอถูกคลื่นความพอใจอย่างแรงต่ออิฏฐารมย์และความไม่พอใจอย่างแรงต่ออนิฏฐารมย์เข้ามาเท่านั้น พลังทางลบก็เข้ามาทันที ตัณหาเข้ามารับช่วงพอดีทำปฏิกิริยาทางกรรมเคมี เกิดการยึดมั่นถือมั่นอย่างจริงจัง 

เสียงเพลงดังผ่านแนวไผ่ที่มีสีเหลือง
สายลมพัดเรี่ยยอดและดอกเบาๆ ทำให้ดอกใบเคลื่อนไหวไม่รุนแรง


ทินเล่รำพึงต่อพระพักตร์รูปสลักพระอวโลกิเตศวร ที่เกิดจากศรัทธาอันยิ่งใหญ่ของมันเอง
ชายที่นำมันมาคือผู้ที่ถ่ายทอดศิลปะการแกะสลักให้








ต่อมาสมัยกรุงศรีอยุธยาพุทธศาสนาและศิลปะได้รับอิทธิพลจากขอม ศาสนาพราหมณ์ ที่แพร่หลายอยู่ก่อนหน้าการเข้ามาของพุทธศาสนาอยู่มาก การผสมผสานกันของพุทธศาสนาและศาสนาพราหมณ์จึงเป็นลักษณะสำคัญของศาสนาในสมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่งสะท้อนให้เห็นใน ศิลปกรรมต่างๆ สถาปัตยกรรมของสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น สมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถทรงยกวังให้เป็นวัดพระศรีสรรเพชญ์ ทรงสร้างวัดจุฬามณีและพระวิหาร ทรงหล่อรูปพระโพธิสัตว์ ๕๕๐ พระชาติ ส่วนศิลปะที่ได้รับอิทธิพลจากขอมและสุโขทัย เช่น พระปรางค์วัดพุทไธสวรรค์ วัดราชบูรณะ เป็นต้น ส่วนสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลายเป็นเจดีย์แบบเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสอง เช่น เจดีย์วัดภูเขาทอง วัดชุมพลนิกายาราม เป็นต้น ประติมากรรม พระพุทธรูปที่ได้รับอิทธิพลจากศิลปะขอมเรียกว่า พระพุทธรูปสมัยอู่ทองและตอนปลายสมัยกรุงศรีอยุธยานิยมสร้างพระพุทธรูปแบบทรงเครื่อง อย่างไรก็ตามสมัยกรุงศรีอยุธยาพระพุทธรูปมีลักษณะน่าเกรงขามและไม่งดงามเท่าสมัยสุโขทัย