วันจันทร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2553

Greenheart Effect Solution


แนวทางการแก้ปัญหาภาวะใจกระจก
สำหรับแนวทางแก้ไขภาวะใจกระจก ซึ่งเป็นกระบวนการสำคัญที่จะช่วยให้โลกกายภาพและโลกแห่งจิตภาพรอดพ้นจากหายนะ ในที่นี้จะได้แสดงแนวทางทั้งที่เป็นระดับหลักการ วิธีการ และแนวทางปฏิบัติไว้ ดังนี้

๑. ระดับหลักการ

ในระดับนี้ คือ ระดับสร้างความเข้าใจร่วมกันก่อน อยู่ในขั้นปรับทัศนคติให้ตรงกัน ในการปรับทัศนคตินั้น ต้องปรับที่กระบวนทัศน์ (Paradigm) ให้เข้าถึงกระบวนทัศน์ที่เรียกว่า กระบวนทัศน์ไม่ยึดมั่นถือมั่น (Non-Attachment Paradigm) หรือที่เรียกว่า “สัพเพ ธัมมา นาลัง อภินิเวสายะ” เป็นกระบวนทัศน์ที่ให้ความสำคัญต่อธรรมชาติทุกส่วน มองเห็นธรรมชาติสัมพันธ์กันและกันระหว่างกายภาพและจิตภาพ เข้าใจสรรพสิ่งอิงอาศัยกันและกันเกิดและดับ อาศัยระบบใยข่ายเป็นเครื่องมือในการเชื่อมโยงและใช้ปัจจยการภาษาในการสื่อสารค้นหาความจริง

กระบวนทัศน์ที่ถูกต้องในระดับนี้ทำให้เข้าใจระบบของสรรพสิ่งอย่างถูกต้องตามลักษณะของระบบนิเวศคือ “ของเสียเท่ากับศูนย์” ทุกอย่างเป็นอาหารของกันและกัน กายภาพเป็นอาหารของจิตภาพ จิตภาพก็เป็นอาหารของกายภาพ หล่อเลี้ยงกันไปอย่างนี้

ถ้าหากกายภาพเป็นพิษ จิตภาพก็เสพอาหารพิษ จิตภาพที่เป็นพิษ ก็สร้างการทำลายล้างกายภาพต่อไป นี่เป็นภาวะใจกระจก ดังนั้นต้องสร้างวงจรห่วงโซ่อาหารของกายและจิตให้มีประโยชน์ บริสุทธิ์ สะอาด และสมดุล กายและจิตก็จะมีประโยชน์ บริสุทธิ์ สะอาด สงบ และสมดุล นี่เป็นระบบชีวิตนิเวศ (Bio-Ecology)


ในระดับหลักการนี้สิ่งที่จำเป็นก็คือ การคิดใคร่ครวญให้เห็นคุณ เห็นโทษ ประโยชน์ มิใช่ประโยชน์ให้เด่นชัด หลีกเลี่ยงสิ่งที่เป็นโทษและไม่เป็นประโยชน์ สิ่งนี้เป็นตัวสร้างเรือนกระจก ในระดับความคิดนี้มีกรอบคือ
๑) ควบคุมความอยากที่มีต่อสิ่งที่พึงพอใจ (อิฏฐารมณ์) และสิ่งอันไม่พึงพอใจ (อนิฏฐารมณ์)
๒) ไม่มองเห็นสรรพสิ่งเป็นศัตรูที่จะต้องเอาชนะ เป็นการส่งเสริมอัตตา
๓) ไม่ปรุงแต่งจิตให้เห็นผิดเป็นชอบ


ในด้านหลักการนี้โดยสรุปก็คือ วิสัยทัศน์เชื่อมโยงและการคิดที่ถูกต้อง เมื่อตั้งฐานจิตไว้ชอบเช่นนี้ได้ ภาวะใจกระจกก็จะลดลงและเป็นไปตามวงจรปกติ


(อ่านต่อในดุษฎีบัณฑิตยานุสรณ์)



1 ความคิดเห็น:

puzinnian กล่าวว่า...

เข้ามาให้ความคิดเห็นด้วยนะครับ
จะได้มีกำลังใจ