วันเสาร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ปลุกโลกให้ตื่น



คำที่ว่า “นกไม่รู้จักฟ้า ปลาไม่รู้จักน้ำ คนไม่รู้จักโลก” เป็นคำพูดที่แสดงออกทางปรัชญาที่น่าอัศจรรย์มาก บ่งบอกให้เห็นว่า การที่เขาใช้ชีวิตอยู่ในสภาวะรอบตัวนั้นกลายเป็นสิ่งที่เกี่ยวเนื่องกับตัวเขาไปอย่างแยกไม่ออก โลกที่บีบคั้นคน คนที่ตกอยู่ภายใต้กระแสวังวนแห่งโลก ยากยิ่งที่จะรับรู้ได้ว่า โลกนี้เป็นอะไร ตนจะทำอย่างไร

เปรียบอีกทางหนึ่ง มนุษย์ในโลกนี้กำลังตกอยู่ในห้วงแห่งความฝัน การหลับของมนุษย์นั้น เป็นภาวะที่แฝงอยู่ในความไม่รู้ว่าตนเองเป็นอะไร ที่เรียกว่าตื่นรู้ มิใช่เรียนรู้ เรียนรู้เป็นการฝันให้เข้าใจสังคม ดำเนินชีวิต ทำงานได้ แต่จะไม่ตื่นรู้ว่า แท้จริงตนเองเป็นใครที่แท้ มิใช่เป็นใครในความหมายว่า เป็นลูกเต้าเหล่ากอใด แต่เป็นจิตที่สำนึกตน มีไม่กี่ครั้งที่มนุษย์ใกล้จะตื่น หนึ่งคือการกระเทือนต่อความรู้สึกอย่างยิ่งจะตื่น การอยู่ในสมาธิคือสภาวะใกล้จะตื่น การตกใจอย่างแรงก็ใกล้จะตื่น แต่พอออกจากสมาธิ หายตกใจทุกคนก็กลับไปสู่ความหลับอีกเช่นเคย และหลับสนิทด้วย หากใครมาปลุกมายุ่งมาเกี่ยวจะรู้สึกรำคาญทันที สังเกตคนที่ตกอยู่ในห้วงแห่งความหลับใหล เขาจะโกรธ รำคาญ และไม่พอใจเป็นอย่างยิ่งถ้าหากมีใครสักคนมาทำให้เขาตื่นขึ้น

การหลับมี ๒ ประเภท
๑)การหลับที่เป็นการพักผ่อนของกาย
๒)การหลับที่เป็นการไม่ตื่นของจิต

โปรดจงรู้ว่า มนุษย์นั้นก็เป็นสัตว์ประเภทหนึ่ง สัตว์ทั้งหลายนั้นไม่เคยตื่นจากความหลับ เพราะสัตว์ไม่เคยรู้ว่าตัวมันเป็นอะไร นี่คือความหมายของคำว่า หลับ คนไม่เคยเข้าไปรู้เลยว่า ตนเป็นใคร ถามว่า ท่านเป็นใคร มนุษย์จะตอบได้แต่ว่า เป็นลูกคนนั้น เป็นหลานคนนี้ ตระกูลชื่อนั้น มนุษย์บอกได้เพียงนี้ ก็เท่ากับสัตว์ที่มันทราบแต่เพียงว่า มันเป็นสิงห์ ม้า ลา ช้าง แบบสัญชาตญาณของสัตว์เท่านั้น มนุษย์ไม่ได้ตื่นจากความเป็นสัตว์ของตนได้

ในโลกนี้มีคนที่ตื่นแล้วไม่มาก ท่านเหล่านั้นได้พยายามปลุกคนอื่นๆ ทั่วทั้งโลกให้ตื่นเช่นเดียวกับตน แต่เป็นงานที่ยากลำบากมาก จำนวนคนที่หลับกับผู้ที่ตื่นนับเป็นเปอร์เซ็นต์แทบไม่ได้ ท่านเหล่านั้นต้องใช้พลังมากที่จะปลุกคนทั้งโลกให้ตื่น เพราะในความหลับนั้นสามารถสร้างผลกำไรได้มาก เหมือนกับคนๆ หนึ่งที่ฝันว่าตนอยู่บนปราสาทราชวัง มีอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย แต่คุณกำลังปลุกเขาให้ตื่นว่าเขาเป็นเพียงคนขอทานข้างถนนเท่านั้น มีแต่ขอทานที่ฝันเป็นจักรพรรดิ จักรพรรดิไม่เคยฝันเป็นจักรพรรดิ นี่เป็นตรรกะง่ายๆ ขอทานนั้นกำลังลงทุนในความฝันของตน เขาจะปกป้องฝันของเขาไม่ให้สลายไป จะไม่ยอมตื่นเด็ดขาด เขาจะรำคาญไม่พอใจ จะต่อต้านคุณว่า คุณมายุ่งกับชีวิตฉันทำไม คุณสามารถยอมปลุกคนที่กำลังฝันหวานได้หรือ


แม้ว่าคุณปลุกเขาได้ครั้งหนึ่งเขาก็จะกลับไปหลับเหมือนเดิม เพราะเมื่อเขาตื่นขึ้นเขาเป็นเพียงขอทานเท่านั้น ในความฝันเขาเป็นถึงจักรพรรดิ การเข้าไปลงทุนในความฝันเป็นจิตวิทยาเป็นสิ่งยิ่งใหญ่ ด้วยเหตุนี้คนที่ทำงานนี้มาก่อนไม่ว่าจะเป็นพระพุทธเจ้า พระโพธิธรรม เหลาจื้อ โสเครตีส เฮราคลิตัส ต่างไม่ประสบความสำเร็จ ทั้งที่ทำอย่างเต็มที่ ท่านเหล่านั้นเขย่าคนที่หลับอยู่ แต่แล้วคนก็ยังคงหลับใหล เมื่อเขาถูกปลุกให้ตื่น สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ครั้งที่สองปลุกเขาให้ตื่น แต่ไม่ พวกเขาไม่ตื่น สงครามโลกครั้งที่สามจะป้องกันได้ก็ต่อเมื่อมีคนตื่นมากเพียงพอเท่านั้น คนต้องกำลังติดเชื้อปลุกคนต่อๆ ไปเท่านั้น ทำเป็นลูกโซ่ และก็ต้องทำอย่างรวดเร็ว เพราะเวลามีไม่มากพอ มิฉะนั้นคนที่หลับใหลพวกนี้กำลังจะทำลายโลกนี้ให้สิ้นไป



นักการเมืองเป็นคนหลับใหล เพราะไม่มีคนที่ตื่นคนใดเป็นนักการเมืองได้ เพราะอะไร ก็เพราะพวกเขาไม่อาจโกหก หรือไม่อาจให้สัญญาในสิ่งที่มันเป็นไปไม่ได้ได้ ไม่มีคนที่ตื่นแล้วคนใดเป็นการเมืองได้ เพราะเขาไม่มีความอยากให้อัตตาของเขาเต็มอีก เพราะท่านไม่มีอัตตาเหลืออีก อัตตาอยู่ได้ในตัวตนที่ปลอมในความหลับเท่านั้น พอตื่นขึ้น อัตตาก็ทำงานไม่ได้ ไม่มีคุณประโยชน์ใด ก็เมื่อคุณอยู่ตรงนั้นแล้ว ก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป คนที่รู้ตนเองจึงเป็นที่ไม่มีปมด้อยอีกต่อไป แม้ว่าคุณกำลังเป็นทุกข์อยู่กับปมด้อยนั้น คุณก็ไม่ต้องการภาวะผู้นำใดๆ ไม่ว่าจะเป็นสังคม ศาสนาและนักการเมือง คุณไม่มีฐานนั้น เพราะปมด้อยนำไปสู่การมุ่งหวังแรงบันดาลใจ เพราะเขาไม่ต้องการเป็นใครๆ อีกในโลกนี้ ในสายตาของเขาเอง เขาล้มเหลว แต่เขาต้องการพิสูจน์ตนเองว่า เราอยู่ที่นี่ พวกเราเคยอยู่ที่นี่ เขาต้องการจารึกชื่อเขาไว้ในประวัติศาสตร์ แม้ว่าเขาจะรู้ว่าคนที่จารึกชื่อในประวัติศาสตร์ก่อนหน้านั้นหายไปทีละคนสองคน กลายเป็นอ้างอิง แล้วก็เลื่อนไปอยู่ภาคผนวก แล้วก็ออกไปจากประตู


ตามธรรมดา มีใครบ้างที่ต้องการจารึกชื่อเขาไว้แล้วนำไปได้บ้าง แต่เขาก็ต้องการจารึกชื่อไว้ นี่ก็เป็นบทพิสูจน์ความเป็นสัตว์เท่านั้น เพราะสัตว์ทุกตัวมีสัญชาตญาณอยู่ นักวิทยาศาสตร์เรียกว่า สัญชาตญาณหวงดินแดน สุนัขชอบเยี่ยวรดต้นไม้ เหมือนกับว่ามันกำลังทำการเซ็นชื่อมันไว้ มันมุ่งหมายว่า ต้นไม้นี้เป็นของกูแล้ว มันไม่ให้หมาตัวใดเข้าใกล้ หมาตัวอื่นเข้ามาได้กลิ่นเยี่ยวมันเข้า ก็รู้ว่าต้นไม้นี้มีเจ้าของ สัตว์ทั้งหลายทำเหมือนเดียวกัน ไม่ว่าสิงโต เที่ยวฉี่ราดรดไปทั่วบริเวณกว้างเพื่อให้สัตว์ตัวอื่นๆ รู้ว่ามันเป็นเจ้าของ

คนก็ทำเช่นเดียวกัน ประเทศที่เห็นอยู่นี้ก็ไม่ใช่อะไรอื่น แต่เป็นการเยี่ยวรดไปตามเขตแดนต่างๆ ของคนเท่านั้น ทำเป็นเขตแดน นี่คืออเมริกา อินเดีย ไทย เขมร อังกฤษ จีน รัสเซีย เราได้กลิ่นว่านี่มันเป็นประเทศของใคร จะเข้าไปโดยไม่มีวีซ่า ไม่มีพาสปอร์ตไม่ได้ พวกเขาจะหวงและจะทำร้ายผู้ที่บุกรุกทันที แต่ถ้ามนุษย์ที่ตื่นแล้ว มีหรือที่จะทำอย่างนี้ ไม่เห็นจำเป็นต้อง ทุกคนอยู่ร่วมกันในโลกใบนี้ มีอิสระที่จะเดินทาง มีอิสระที่จะดำรงชีวิต มีอิสระที่จะรักกันและกัน แต่ความคิดเช่นนี้มีไม่ได้ในกลุ่มคนที่หลับอยู่

เพราะในความหลับของเขานั้น อัตตาของเขาเจริญเติบโต อ้วนพลี ได้รับการสูบฉีดสารอาหารอย่างสบาย ผ่านอะไร ผ่านการทำร้ายกัน ผ่านการเอาเปรียบกัน ผ่านการแย่งชิงผลประโยชน์กัน ผ่านการกักตุนสินค้าและครอบครองดินแดน ฯลฯ เมื่อใดก็ตามที่เขาตื่นขึ้น อัตตาของเขาจะสิ้นไป เป็นไปได้ยากที่อัตตานี้จะยินยอมง่ายๆ มีแต่ต้องปลุกแรงๆ กระตุ้นแรงๆ กระเทือนแรงๆ และเข้าใจก่อนว่าตนเองกำลังหลับใหลอยู่ พร้อมที่จะตื่นขึ้น หาวิธีตื่นขึ้น ร่วมมือกับผู้ที่ตื่นแล้วนั่นแหละจึงจะเป็นหนทางรอดพ้นจากอัตตา

ไม่มีความคิดเห็น: